Wednesday, April 11, 2012

Final Project : Artist in Resident



Artist in Resident @ Koh Kret
        โครงการศิลป์พำนักรักษ์เกาะเกร็ด  เป็นโครงการที่จัดให้มีศิลปินเข้าไปใช้ชีวิตในเกาะเกร็ด เพื่อศึกษา ดูงาน และซึมซับชีวิตแบบเกาะเกร็ด  เพื่อสร้างงานศิลปะในแขนงที่ตนเองถนัด  ศิลปินแต่ละคนสามารถพำนักได้นานสุด 6 เดือน หลังจากนั้นจะเปลี่ยนศิลปินไป โดยศิลปินแต่ละคนจะพำนักรวมอยู่กับ ครอบครัวนักรักษ์  ครอบครัวนักรักษ์เป็นครอบครัวที่ประกอบด้วยสมาชิกสามคนคือ ลุกหมาก ซึ่งเป็นข้าราชการเกษียณอายุภาควิชาสาขาพืชศาสตร์  ป้าทับทิม ภรรยาของลุงหมาก เป็นปรมาจมรย์ทางด้านการทำขนมไทย แห่งเกาะเกร็ด และ คุณปูรณ์ ลูกชายของลุงหมากและป้าทับทิม  เป็นเจ้าของกิจการเครื่องปั้นดินเผาแห่งหนึ่ง ในเกาะเกร็ด  ซึ่งมีความชอบในงานศิลปะด้วย


แนวความคิดในการออกแบบ
       เวลา = เวลาที่เกิดขึ้นมีหลายแง่ทั้ง เวลาในชีวิตประจำวัน เวลากับธรรมชาติ  เวลาช้าเวลาเร็ว
ผมเลยจับมาเป้น concept ใช้บันไดและ ramp แทน เวลาช้ากับเวลาเร็วที่ทอดไปยั' space ต่างๆเหมือนกับ
การได้เดินผ่านห้วงเวลาต่างๆนั่นเอง  มีจุดสำคัญอีกจุดคือ ห้องพระที่ไม่มีพระแต่เป็นห้องพระที่มองออกไปแล้วเห็นวัดหรือเจดีย์มีการสร้าง space ให้รู้สึกสงบนิ่ง

ข้อเสนอแนะจากอาจารย์
      งานยังไปได้ต่อยังไม่สุด วิธีนำเสนอยังขายงานได้ไม่ดีพอ  ตัว ramp น่าจะตัดผ่านบ้านไม่น่าอ้อมหรือไม่เป็นหนึ่งเดียวกับตัวบ้าน




























Project 2 : Shop house

ให้วิเคราะห์โครงการ พฤติกรรม รวมถึงกิจกรรมของผู้อยู่อาศัย ของตัวผมและลูกค้า ให้ออกแบบที่พักอาศัยซึ่งใช้ประกอบธุรกิจส่วนตัวได้ ธุรกิจจะต้องใช้ผู้ดำเนินการเพียง 2 คนเท่านั้น 





แนวความคิดในการออกแบบ
ผมได้ออกแบบ Art Gallery คอนเซปหลักคือ frame in frame  เป็นการนำรูปที่ปกติตั้งอยู่กับแค่กำแพงขาวๆ นำมาใส่เฟรม ที่เป็นเฟรมธรรมชาติอีกทีนึง  ทำให้ตัวงานมีความน่าสนใจเปลี่ยนแปลงไปตามธรรมชาติหรือบรรยากาศข้างนอก


ข้อเสนอแนะของคณาจารย์
       ตัวลูกเล่นการนำสายตาของแสงนั้นใช้ไม่ได้จริงเนื่องจากแสงที่เข้ามาเยอะกว่าที่คิดไว้
ตัวบ้านมีอุณหภูมิสูง  ประตูอันตราย




















Project 1 : ต้องรอด

  ให้ออกแบบที่พักพิงและสภาพแวดล้อมของตัวเองซึ่งต้องอยู่ในสถานการณ์น้ำท่วม พร้อมเรือ 1 ลำ เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ท่ามกลางสถานการณ์น้ำท่วมได้เป็นระยะเวลา 1
เดือน โดยที่ไม่มีน้าประปาและไฟฟ้าใช้
แนวความคิดในการออกแบบ           เนื่องด้วยผมได้ประสบอุทกภัยมาโดยตรงเลยได้เล็งเห็นความสำคัญของเรื่องการ

เข้าสังคมของมนุษย์ โดยทั่วไปแล้วมนุษย์เป็นสัตว์สังคมต้องมีการสื่อสารระหว่างกันตลอด
เลยให้ความสำคัญกับพื้นที่ที่ใช้ participate กันระหว่างคน ด้วยกัน
และเนื่องจาก พื้นที่ใช้สอยมีจำกัดผมเลยคิดการออกแบบให้บ้านมีความ flexible สำหรับการ
พบปะพูดคุยกัน่ และสามารถเปลียนกลับมาเป็น private ได้้อเสีย




ข้อเสีย หลังจากที่ได้ jury แล้วรั
         บ้านยังมี waste space  และคนอื่นที่จะเข้ามา participate ภายในบ้านยังต้องผ่านส่วน
private ก่อนที่จะไปสู่ส่วนที่เป็นห้องน้ำและห้องครัว